เชื่อว่าหลายคนคงจะเคยได้ยินเขาพูดกันว่า “ถ้าอยากเลิกคบใคร จงให้คนนั้นยืมเงิน”
ได้ยินแล้วก็คิดว่ามันไม่เกินจริงเลยนะ เพราะเห็นมาหลายรายแล้วที่ต้องผิดใจกัน
ด้วยการให้เพื่อน “ยืมเงิน” สุดท้ายก็ถูกปล่อยให้ลำพังด้วยคำว่า“ไม่คืน”
หรือนานมากกว่าจะได้คืน เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสาเหตุยอดฮิต
ที่ทำให้เพื่อนเลิ กคบกันมานักต่อนักแล้ว
1. แล้วส่วนมากคนที่ให้เงินเขายืม มักจำได้ซะด้วยสิ แต่คนที่
ไปยืมเขามามักจะลืม แต่คนให้ยืมกลับไม่กล้าทวง
คนยืมก็ทำเป็นไม่รู้เรื่องซะงั้นทุกครั้งที่เจอกันคนให้ยืม
กลับรู้สึกกระอักกระอ่วนคนยืมกลับไม่รู้สึกอะไร แปลกเนอะ!
2. ที่ให้เธอยืมเงินใน ณ ตอนนั้น ไม่ใช่เพราะฉันมีเงิน
หรือฉันไม่ลำบ ากหรอกนะ แต่เพราะฉันน้ำใจ
ที่อย ากให้เธอผ่านเรื่องร้ ายไปได้ด้วยดี
และเป็นความเห็นใจความเชื่ อใจที่มีให้
3. อย่าให้คนที่ไม่สนิท ยืมเงินเพราะคนที่เขาสนิท ใครเขาจะให้เขายืม
4. เพราะการให้เงินคนอื่นยืม เท่ากับจ่ายเงินซื้ อศั ต รูเชียวล่ะ
อย่าแบบว่าอะไรๆก็ให้เงินเขายืมเงิน ความสูญเสียหลังจากนี้
มันไม่ใช่แค่เงิน แต่มันคือมิตรภาพ เพราะจุดเริ่มต้นนั้น
คุณอย ากช่วย แต่สุดท้าย ความซ วยจะมาเยือน ในไม่ช้า
5. ถ้าคนที่เคยยืมเงินกลับมายืมอีกเป็นครั้งที่สองหรือมากกว่านั้น
ทั้งที่ยังไม่คืนเลย คนแบบนี้ไม่เคยสำนึกเงินที่คุณให้ยืมไปครั้งแรก
แต่เขาจะโก รธแค้ นที่คุณไม่ให้เขายืมอีก ถ้าจะหมางใจกัน
เพราะไม่ให้ยืมเงินก็หมางใจตั้งแต่ครั้งแรกไปเลยดีกว่า
6. ก่อนมายืมเงิน เมื่อก่อนคบหาเป็นเพื่อน พอหลังยืมไป
กลายเป็นพี่ใหญ่และพอเอาเงินมาคืน ทำตัวยังกับ
เป็นผู้มีพระคุณ มันเป็นแบบนี้จริงๆ
7. คนที่ถูกยืม กลั วถูกยืมเป็นครั้งที่สอง ไปๆ มาๆ เสี ทั้งเงินเสี ยทั้งเพื่อนซะงั้น
…
มันก็เหมือนสุภาษิตจี น บทหนึ่งกล่าวไว้ว่า
“..ยืมแล้วคืนให้ ยืมครั้งต่อไปไม่ย าก..”
ก่อนจะให้ใครยืมเงิน คิดก่อนนะว่า มีกำลังที่จะหามาใช้คืน
ได้แค่ไหน ถ้าไม่ ก็อย่ายืมเลย