เรื่องราวของเศรษฐีตกอับ คุ้มค่ามากที่ได้อ่านได้ข้อคิดชีวิตอีกมาก

การใช้ชีวิตอยู่บนความพอเพียง รู้จักประมาณตน ทำให้เราไม่ต้องกู้หนี้ยืมสิน คนจนแต่ขยันหาก็รวยได้ บางคนรวยแล้วลืมตัว

ลืมไปว่าพื้นฐานตัวเองเคยเป็นแบบไหน แล้วดูถูกคนอื่น อย่าลืมนะว่ารวยได้ก็จนได้เหมือนกัน ไม่มีใครโชคดีตลอดไป

วันนี้ขอแบ่ งปั นบทความเตือนสติ รวยแล้วอย่าทะนงและลืมตัว  ชีวิตมีขึ้นมีลง อย่าดูถูกใคร

บทเรียนชีวิตจากเรื่องจริงที่เตือนใจเราว่า “รวยแล้วอย่าทะนงและลืมตัว” “ลำบากตอนแก่น่าอนาถใจที่สุด”

 

มีอดีตเจ้าของที่ดินมากกว่า 500 ไร่ท่านหนึ่งเล่าให้ฟังว่า

เมื่อก่อน..ผมมีที่ดิน 500 ไร่รวมๆ กันทุกเขตของกรุงเทพ และเมืองใหญ่ ๆ ทั่วประเทศ ตอนนั้นเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ผมพกเงินในกระเป๋า

เที่ยวกินครั้งละแสน ทำมาค้าขายไม้ ได้เงินดีจริงๆ ลูกๆ ผมส่งเรียนเมืองนอกหมด ไม่ต้องทำงาน เรียนอย่างเดียว

เมียผมชอบเล่นหุ้น หุ้นก็ขึ้นเอาๆ เรามีเงินสดหลายร้อยล้าน มีญาติผมคนหนึ่งเดือดร้อนมายืมเงินผม ผมด่าเขาซะไม่มีชิ้นดี

แต่ก็ให้เงินไปนะแสนนึง แล้วบอกเขาว่าไม่ต้องมาหากูอีกนะ กูทานให้ เขารับเงินพร้อมน้ำตา ตอนนั้นผมไม่รู้หรอกว่าเขาจะรู้สึกยังไง

ปีต้มยำกุ้งผมไม่สะดุ้ง แต่ปีน้ำท่วม น้ำพัดทุกอย่างไปจากชีวิตผมจริงๆ เมื่อผมคิดการใหญ่ ตั้งโรงงานอะไหล่ที่อยุธยา

ไม่ได้ทำไม้แล้ว รถผม 19 คัน บ้านอีก 5 หลัง ที่ดินทั้งหมดและเงินสดที่เคยมี

 

เมียผมเล่นหุ้นเจ๊งไปสี่ร้อยกว่าล้าน ลูก ๆ ทำธุรกิจก็หมดตัวขา ดทุนย่อยยับ ภายใน 2 ปี สิ่งที่ผมมีมันหายไปเหลือไว้เพียงหนี้สิน

สองร้อยกว่าล้าน ปัจจุบันผมคือบุคคลล้มละลาย เช่าห้องแถวอยู่พอได้ขายก๋วยเตี๋ยวประทังชีวิตรอวันจากไปอย่า งไร้จุดหมาย

เมียผมก็ไม่มีกะจิตกะใจทำอะไร ลูก ๆ ผมไม่เคยเห็นหน้า ตอนนี้ผมอายุ 76 ผมต้องยกหม้อก๋วยเตี๋ยว ล้างจาน ทุกวันนี้ผมปลงได้แล้วนะ

ผมมาลำบากตอนแก่ เงินค่าเช่าห้องนี้ผมไปยืมกับคนที่ผมเคยด่าเขาแล้วให้เขาไปแสนนึง ลูกเขายื่นเงินให้ผมแสนห้าแล้วบอกผมว่า

“พ่อผมบากหน้าไปยืมเงินคุณลุง เพราะตอนนั้นผมเข้าโรงพยาบาลผ่าตัดสมอง พ่อนั่งร้องให้ คุณลุงด่าแล้วโยนเงินให้เหมือนหมา

ลุงบอกว่าจะตีพ่อ พ่อก็ยอม เพราะชีวิตลูกมีค่ามากกว่าสิ่งใด ต่อให้ทำร้า ยร่างกายและจิตใจพ่อก็ยอม ถ้ามีเงินจะคืนให้คุณลุง

 

แสนนี้ผมคืน ห้าหมื่นคือดอกเบี้ย เราไม่มีหนี้บุญคุณกัน แต่ถ้าคุณลุงลำบาก คุณลุงมายืมกับผม ผมจะให้กู้ ผมจะไม่ด่าคุณลุง

เหมือนที่คุณลุงด่าพ่อผม จริง ๆ ถ้าไม่มีเงินคุณลุง ผมคงไม่มีวันนี้ แต่ถ้าพ่อผมไม่อดทนเพื่อแลกชีวิตผม ผมก็จา กโลกนี้ไปแล้ว

ผมทำตามที่พ่อบอกแล้ว ลูกพ่อดูแลพ่อ ส่วนลูกคุณลุงผมไม่รู้ กรรมของใครของมัน” ผมเดินร้องไห้มาถึงบ้าน เอาเงินจ่ายค่าเช่าห้อง

แถวลงทุน มีเงินเก็บไว้ 30,000 บาท และผมเข้าใจความรู้สึกของคำว่า “กรรมนั้นตามสนอง” หลานไม่ได้ด่าผม แต่หลานพูดความจริง

 

เพียงแต่ผมรับความจริงไม่ได้ แต่ตอนนี้ผมมีความสุขดีนะ พระ แม่ชี ขอทาน มากินก๋วยเตี๋ยวที่ร้านผม ผมไม่คิดเงิน ตอนผมมีเยอะๆ

ผมเบื่อคนบอกบุญ ผมหลอกเขาว่านับถือคริสต์ ผมไม่เคยทำบุญ ผมเที่ยว ผมกิน ผมมีผู้หญิง ตอนนี้ผมหมดตัว มีหนี้สิน สิ้นเพื่อน ไร้ลูก

ผมถึงได้ฟังธรรม เข้าวัดเป็น รู้จักทาน อีกหน่อยก็คงจากไป ผมห่วงแค่เมียผม ผมภาวนาให้เมียผมจากไปก่อน จะได้หมดห่วง

ไม่ต้องถามว่าร้านอยู่แถวไหน เพราะจะไม่บอก เก็บเรื่องราวมาให้อ่าน คนอ่านจบได้กำไร คนขี้เกียจอ่านก็คงพลาดโอกาส

กำลังใจจากคุณตาที่ให้มา “ไม่มีคำว่าอดอยา กสำหรับคนขยัน ไม่มีการปลงตกถ้าไม่เคยสูงสุดแล้วมาต่ำสุด”

เรื่องนี้สอนใจได้ดีเหลือเกิน ถือว่าเป็นการสอนใจสำหรับใครหลาย ๆ คนที่ทะนงตนและลืมตัว ใช้เพื่อเตือนใจตัวเองนะ

Load More Related Articles
Load More By babyghost34
Load More In ข้อคิดเสริมกำลังใจ
Comments are closed.

Check Also

แบบนี้ไม่ได้เรียกว่าความรักหรอก..ถ้ามีรักแล้วไม่ใส่ใจ..อย่ าเสียเวลา

มีรักแล้วไม่ใส่ใจ มันไม่ได้เรียกว่าความรักหรอก รัก คือส … …