ใช้เงิน 6 ขั้น เปลี่ยนชีวิตเพื่อ “อิสรภาพทางการเงิน” กินใช้อย่างไม่ต้องพะวงหน้าพะวงหลัง

จะทำอย่างไรคนเราจึงจะมีชีวิตสุขสบาย ไม่ขัดสน ไม่เดือดร้อนเงินทอง

หรือพูดง่ายๆ ว่าอยากจะร่ำรวย และต้องการให้มีสุขภาพที่แข็งแรง

ดังนั้น ในวันนี้จึงขอนำเอา 6 ขั้นตอนสู่การเป็นผู้มีเงินใช้อย่างสบายๆ

มาฝากให้กับผู้อ่านไปใช้นะคะ สำหรับ 6 ขั้นตอนง่าย ๆ ก็คือ


ขั้นแรก คือต้องมีเงินออมประมาณ 6 เท่าของค่าใช้จ่ายประจำเดือน

เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับเวลาที่ต้องการใช้เงินฉุกเฉิน

ขั้นสอง จ่ายหนี้ที่มีอัตราดอกเบี้ยแพงที่สุด และหนี้สินที่เกิดจากการใช้บัตรเครดิตเสียก่อน

ขั้นสาม ทำประกันชีวิต เพื่อป้องกันความเสี่ยงให้กับตัวเองและครอบครัว

ขั้นสี่ ออมทรัพย์กับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพต่าง ๆ รวมถึงกองทุนรวมระยะยาว

ขั้นห้า ทำประกันสุขภาพและประกันอุบัติเหตุ

และขั้นสุดท้ายขั้นตอนที่หก นำเงินที่เหลือจาก 5 ขั้นแรกและค่าใช้จ่ายประจำไปลงทุนเพิ่ม

ทำให้เงินงอกเงยเพิ่มขึ้น การกันเงินไว้สำหรับเพื่อกรณีฉุกเฉิน ก็คือเงินออม

ส่วนที่เรากันเอาไว้สำหรับการใช้จ่ายกรณีเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น

ไม่ว่าจะเป็นค่ารักษาพยาบาลเมื่อยามเจ็บป่วย การซ่อมแซมรถยนต์หรือบ้านเรือน

และเครื่องใช้ต่างๆ หากเสียหายและชำรุดเกิดขึ้น..

การเก็บเงินเพื่อการฉุกเฉินนั้น จากที่ได้มีการศึกษาไว้ พบว่าจำนวนขั้นต่ำที่ควรเก็บไว้

คือที่ประมาณ 6 เท่าของรายจ่ายประจำเดือน

ตัวอย่างเช่น ถ้าเรามีค่าใช้จ่ายประจำรายเดือนอยู่ประมาณ 10,000 บาทต่อเดือน

ก็ควรกันเงินในส่วนนี้อยู่ประมาณ 60,000 บาท

การจ่ายหนี้สินที่มีดอกเบี้ยที่แพงที่สุดออกไปเสียก่อน หมายถึงการบริหารหนี้สิน

ของตนเองให้มีประสิทธิภาพ หนี้นอกระบบหรือหนี้บัตรเครดิตการ์ดหรือสินเชื่อ

สินค้าส่วนใหญ่จะเก็บในอัตราดอกเบี้ยที่สูงรวมทั้งมีค่าธรรมเนียมต่างๆ ในการติดตาม

หรือบริหารหนี้ค่อนข้างมาก

..

ถ้าหากท่านปฏิบัติตาม 6 ขั้นตอนดังกล่าวข้างต้น ท่านก็จะมีความมั่นคงในชีวิต

ที่ไม่ต้องเดือดร้อนต้องไปขอกู้หนี้สินหรือพึ่งพาผู้อื่น คนที่ทำงานทุกคน

จึงต้องมีการจัดสรรการใช้จ่าย การออม และการลงทุนอย่างรอบคอบและมีวินัย

ก็คงตรวจสอบตัวเองว่าได้มีการดำเนินการตามขั้นตอนนี้แล้วหรือยัง

ถ้าหากยัง.. ก็ควรที่จะเริ่มเก็บออมเสียตั้งแต่วันนี้

ซึ่งก็มีวิธีการตรวจสอบตนเองอย่างง่ายว่ามีเงินออมเพียงพอหรือยัง

วิธีการมีดังนี้..

เงินออมที่ควรมีในปัจจุบัน = (1/10) x อายุ x รายได้ทั้งปี

ตัวอย่างเช่น หากเป็นคนโสดมีอายุ 30 ปี ทำงานมีเงินเดือน เดือนละ 15,000 บาท

รายได้ทั้งปีเท่ากับ 180,000 บาท ดังนั้นจึงควรมีเงินออมเท่ากับ

( 1/10x 30 x 180,000 = 540,000 บาท )

ซึ่งเงินออมนี้ก็อาจรวมถึงทรัพย์สินสุทธิที่มีอยู่ เช่น บ้าน ที่ดิน รถยนต์ หรืออื่นๆ เป็นต้น

ถ้าหากเงินออมที่มีอยู่ยังต่ำกว่าเกณฑ์ข้างต้น แสดงว่าสุขภาพการเงินของท่าน

ยังไม่แข็งแรงจึงควรออมเพิ่มขึ้นนะคะ

Load More Related Articles
Load More By babyghost34
Load More In ข้อคิดเสริมกำลังใจ
Comments are closed.

Check Also

แบบนี้ไม่ได้เรียกว่าความรักหรอก..ถ้ามีรักแล้วไม่ใส่ใจ..อย่ าเสียเวลา

มีรักแล้วไม่ใส่ใจ มันไม่ได้เรียกว่าความรักหรอก รัก คือส … …