ทิ้งข้อคิดไว้ดีมาก “เศรษฐี..เงินหนึ่งร้อย” เตือนตัวเองเอาไว้ให้ได้

เมื่อไม่นานมานี้มีชายคนนึง เค้าเจอมรสุมชีวิตอย่างหนักครับ เค้าตกงาน

เค้าโดนภรรย าหนีหน้า เค้ามีลูกชายอายุ 5 ขวบที่ต้องเลี้ยงดู

ชีวิตเค้าในตอนนั้นคุณอาจจะให้คำนิย ามว่า ชีวิตของเค้าอยู่ในช่วงบั ด ซ บ ที่สุด

ก็ว่าได้ แต่ชีวิ ต บั ด ซ บเค้ากลับเปลี่ยนไป เมื่อเค้าได้เจอเศรษฐีเงินหนึ่งร้อย

เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า…

ชายตกงานตื่นแต่เช้า พาลูกชายนั่งรถทัวร์ไปเรื่อย มองที่เก่าๆ

ที่เค้ากับภรรย าเคยไปด้วยกัน บ่ายวันนั้นเป็นวันที่อากาศร้อนจัด

ชายตกงานกำลังจะพาลูกของเค้าเดินเข้าร้านอาหารตามสั่ง

แต่เมื่อเปิดกระเป๋าตั ง ค์ เค้ากลับพบว่า ตอนนี้เขามีเงินเหลือติดตัวเพียง 1 บาทเท่านั้น

ไม่พอที่จะซื้อข้าวให้ลูกชายตกงานบ่นกับตัวเองว่า

“ชีวิตอะไรมันจะรั น ท ด ขนาดนี้เนี่ย!”

ทันใดนั้นเขาก็หันไปพบกับเศรษฐีอ้วนในชุดสูท ท่าท่างใจดี

(ชายตกงานนึกได้ก็รีบเดินเข้าไปหาทันที!)

“พี่ชาย ผมขอเงินสักนิดพอให้ผมได้พาลูกเข้าไปกินข้าวได้มั้ย ผมไม่มีตังค์เลย”

ชายต ก ง านกล่าว..

เศรษฐีอ้วนยิ้มให้แล้วถามชายตกงานว่า…

“ก่อนพี่ให้ตังค์น้องพี่ถามอะไรหน่อยได้มั้ย”

ชายตกงานดีใจ รีบรับคำทันที! “ถามได้เยอะๆ เลยครับพี่”

“ทำไมน้องไม่ลองหางานใหม่ๆ ทำพอได้เงินมาเติมในบั ญ ชี บ้างหล่ะ” เศรษฐีถาม…?


ชายตกงานยิ่งทำหน้าเศร้าไปใหญ่ น้ำตาเหมือนจะไหลเมื่อได้ยินคำถามนี้

มือเขากำมือลูกชายแน่น แล้วพูดออกไปว่า… “ผมเจอม ร สุ มครับพี่ ผมตกงานจากบริ ษั ท

ที่ผมทุ่มเทให้มาหลายปี ภรรย าผมหลบหน้าไปอยู่ที่บ้านพ่อเพราะผมไม่มีเวลาให้

เงินในบั ญ ชี ผมก็หมดไปกับหลายอย่าง ผมรู้สึกว่าตอนนี้ชีวิตผม

มันไม่มีแรงไม่มีค่าพอจะเริ่มงานอะไรหรอกครับ” (แล้วน้ำตาชายตกงานก็คลอเบ้า)

เศรษฐีเห็นแบบนั้นก็ ควักเงิน 100 บาทออกมาจากกระเป๋าและถืออยู่ในมือ

ก่อนจะพูดปลอบว่า…

“ใจเย็นนะไอ้หนุ่ม พี่พอเข้าใจ แต่พี่ขอคุยกับเจ้าหนูนี่ได้มั้ย”

“ได้ครับ…” ชายตกงานรับคำ ก่อนจะหันไปบอกกับลูกชายวัย 5 ขวบในชุดเอี๊ ย ม ว่า…

“ลูก..หนูคุยกับลุงอย่างสุภาพนะครับลูก”

“ครับพ่อ” เด็กชายตัวเล็กดวงตาใสซื่อ เงยหน้ามองเศรษฐีอ้วนคนนั้น

เศรษฐีอ้วนยิ้มให้แล้วเริ่มบ ท สนทนาและถามว่า..

“พีซใช่มั้ยครับ ชื่อหนูหน่ะ ลุงชื่อแดนนะ”

“ครับคุณลุงแดน” เด็กชายตอบ

“หนูช่วยทำอะไรง่ายๆ ให้ลุงสักหน่อยได้มั้ยครับ แค่ตอบคำถามอะไรสักอย่าง”

“ได้ครับลุงแดน” เด็กชายยิ้มรับ

“พีซรู้มั้ยครับว่านี่เรียกว่าอะไร” เศรษฐีนั่งย่อตัวเท่ากับเด็กก่อนจะชู แ บงค์ สีแดงในมือขึ้นมา

“แ บ ง ค์ สี แ ดง เงิน 100 บาทครับ”

“หนูอยากได้มันมั้ยครับ” เศรษฐีถาม.

เด็กชายเงยหน้ามองพ่อที่เฝ้าดูเ ห ตุ ก ารอยู่ แล้วหันกลับมาตอบเศรษฐี่ว่า…

“อยากได้ครับ พีซจะเอาไปซื้อข้าวผัดให้พ่อ”

ชายตกงานได้ยินแบบนั้นถึงกับน้ำตาคลอเบ้า อีกครั้งนึง.

เศรษฐีแหงนหน้ามามองชายตกงานแล้วพูดบางอย่างกับเขาว่า

“เฮ้น้องชาย นายตั้งใจดูอะไรต่อไปนี้ดีๆนะ” (และก็หันกลับมาสบตากับน้องพีซอีกครั้ง)

“น้องพีซครับลุงมีเก มให้เล่น เ ก มหนึ่ง มันเรียกว่า เ ก มถามปุ๊บตอบปั๊บ

กติกาง่ายๆ หนูแค่ตอบว่าอยากได้รึไม่อยากได้แค่นั้นนะครับ”

พีซพยักหน้าและทำท่าทางจริงจังในแบบของเด็ก เศรษฐีเริ่มยืนขึ้นตัวตรง

ชูแบงค์ร้อยขึ้น แล้วถามคำถามที่หนึ่ง

“พีซหนูอยากได้แบงค์หนึ่งร้อยนี้มั้ยครับ”

เด็กชายพยักหน้าและตอบว่า “อยากได้ครับ”

เศรษฐีหันมายิ้มให้ชายตกงานแล้วกร ะ ซิ บ กับเขาว่า…

“ถ้าเกิดอะไรขึ้นอย่ าพึ่ง วู่ ว า ม นะน้องชาย”

ชายตกงานพ่อของเด็กที่เฝ้าดู เ ห ตุ พ ยั กหน้ารับแบบงงๆ ทันใดนั้น

สิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น! เศรษฐีอ้วนข ยำ เ งิ น แ บ งค์ร้อยเป็นก้อนกลมๆ

และโยนลงพื้นทันที! และพูดกับเด็กว่า…

“พีซยังอยากได้เงินนี่อยู่มั้ยครับ”

“อยากได้ครับ” น้องพีซตอบแบบไ ร้ เ ดียง ส า แต่สิ่งไม่ค า ด ฝั นสิ่งที่สองก็เกิดขึ้น

เศรษฐีอ้วนหยิ บ แ บ งค์ ร้ อย ยับๆ นั่นขึ้นมา ขยำหนักกว่าเดิม!

เขาโยนมันลงพื้นอย่างแรง!และถามเด็กแบบลากเสียง อีกว่า…

“หนูยังอยากได้มันอยู่มั้ย”

น้องพีซหันไปมองหน้าพ่อที่กำลังตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ก่อนหันกลับมาตอบว่า…

“อยากได้ครับลุงแดน”

แต่สิ่งไม่คาดฝันครั้งที่สาม ก็เกิดขึ้น!! ครั้งนี้มีเสียงดังทำเอาพ่อเด็กหน้าถ อ ด สี

และคนในร้านอาหารหันมามองพร้อมกันทั้งหมดเพียงเสี้ ย ว วิ!

เพราะเศรษฐีอ้วนก้มมองไปที่เงินยับๆ ใบเดิมที่อยู่กับพื้นก่อนเอาเท้า กระหน่ำกระทืบมัน!

สักพักเขาก็หันมาถามเด็กอีกว่า… “พีซยังอยากได้มันอยู่มั้ยลูก”

เด็กชายมองด้วยแววตาใสซื่อ ก่อนยิ้้ม และตอบกลับว่า…

“อยากได้ครับลุงแดน”

เศรษฐียิ้ม ก่อนย่อตัวลงมาเท่าเด็กและพูดว่า…

“หนูชนะเ ก มนี้แล้วครับ ลุงถามหน่อยสิทำไมหนูถึงยังอยากได้เงิน แ บ งค์นี้มันยับมันส ก ป รกแล้วนะ”

“เพราะมันยังเป็นเงินครับลุงแดน” เด็กชายตอบ

เศรษฐีลูบหัวน้องพีซก่อนลุกขึ้นมาถามชายตกงานว่า…“นายได้อะไรจากเรื่องนี้บ้าง น้องชาย”

“เอ่อ คือผม…” ชายคนนั้นยังตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นไม่หาย ได้แต่คว้ามือลูกมากำไว้แน่น

เศรษเอามือแตะบ่าชายตกงานเบาๆก่อนพูดว่า…

“ใจเย็นเป็นพี่ก็ตกใจ เดี๋ยวพี่เล่า…เองนะ”

“ข้อคิดง่ายๆ จากเรื่องนี้คือ ไม่ว่าเงินนี้จะถูกกระทำยังไง น้องพีซก็ยังอยากได้มัน

เพราะว่า… คุณค่าของมันไม่ได้หายไปไหน”

ชายตกงานเริ่มเข้าใจและสีหน้าดีขึ้น หมายความว่าที่พี่ชายทำเมื่อกี้คือ

“ใช่แล้ว..พี่กำลังให้น้องพีซช่วยเตือนสตินายอยู่”

เศรษฐีกอดคอชายตกงาน ชูเงิน แ บ ง ค์ ร้ อยยับๆ ขึ้นมาและพูดต่อว่า…

“บางครั้งเราก็ถูกท อ ด ทิ้ ง บางครั้งเราก็ถูกก ร ะ ทำ ถูกขยำแล้วขยำอีก

ถูกม ร สุ มชีวิตก ร ะ ทื บ เรามีโอกาสที่จะบอ บ ช้ำ ครั้งแล้วครั้งเล่าใช่มั้ยไอ้น้อง”

เค้ามองหน้าชายตกงานและพูดต่อว่า…

“จำไว้นะ… คนเราอา จ โ ด น บ ท เ รียนชีวิตช่วงนึง เข้ามากระทำได้

แต่เราต้องไม่ทำให้คุณค่าตัวเองลดลงไปนะ… มันก็เหมือนกับ แ บ ง ค์ ร้ อย ยับๆ แ บ งค์นี้แหละ

พี่เชื่อว่าคนทุกคนมีของ อย่างน้องก็แค่คนสิ้นหวังเลยไม่อยากทำงานใหม่ๆ

แต่นั้่นไม่ใช่ป ร ะ เ ด็ น ป ร ะ เ ด็ นมันอยู่ที่น้องดูถูกคุณค่าตัวเอง

อย่ า ดู ถู กตัวเองอีกนะเว้ย ไม่งั้นชีวิตเอ็งก็ไม่มีค่าเท่ากับไอ้เงินแ บ ง ค์ ร้ อย ยับๆนี่นะ”

ชายตกงานรู้สึกมีกำลังใจ เขาเอาแขนเสื้อขึ้นมาเช็ดน้ำตา

ทุกคนล้วนมีคุณค่าในตัวของตัวเอง ได้โปรดอย่ าให้ใครหน้าไหนมาลดคุณค่าคุณ

ลงไปเ ด็ ด ข าด ต่อให้ใครหน้าไหนเข้ามากร ะ ทำเราแบบแบง ค์ ร้อยในเรื่องก็ตาม

“แต่เงิน ต่อให้ผ่านมือใครมา มันก็ยังรักษาคุณค่าของมันได้เสมอ”

Load More Related Articles
Load More By babyghost34
Load More In Uncategorised
Comments are closed.

Check Also

แบบนี้ไม่ได้เรียกว่าความรักหรอก..ถ้ามีรักแล้วไม่ใส่ใจ..อย่ าเสียเวลา

มีรักแล้วไม่ใส่ใจ มันไม่ได้เรียกว่าความรักหรอก รัก คือส … …