30 สิ่งของคนฉลาดที่เขาคิดได้ แต่คนทั่วไปกับมองไม่เคยเห็นมัน

1. เริ่มให้โอกาสกับไอเดียหรือความฝันของคุณ

ไอเดียของคุณอาจจะไม่ใช่ไอเดียใหม่ ความฝันของคุณอาจจะซ้ำกับคนอื่นบ้าง แต่ก็ไม่ใช่ว่า

มันจะไม่มีโอกาสได้ทำให้เป็นจริง ไอเดียของคุณควรค่าจะได้ทดลอง ได้ทดสอบความฝันของคุณ

ควรค่าจะได้ตามหา ต่อให้มันไม่เวิร์คก็ไม่เป็นไร แต่อย่างน้อยก็ให้มันได้มี “ชีวิต” กับเขาบ้าง

เสียดีกว่าให้มันไม่ได้เกิดขึ้นเลยสักนิด

2. เริ่มสังเกตว่าคุณ “สมบูรณ์ดี” แค่ไหนแล้วตอนนี้

คุณดีแค่ไหนแล้วที่มีข้าวกิน คุณดีแค่ไหนแล้วที่มีเสื้อผ้าให้เปลี่ยน คุณดีแค่ไหนแล้วที่มีน้ำให้อาบ

มีบ้านให้อยู่ มีไฟให้ใช้ มี ย า รั ก ษ า โ ร ค มีน้ำสะอาดให้ดื่ม ฯลฯ คุณมีความสมบูรณ์มากมายที่คุณ

อาจจะเคยมองไม่เห็น ลองมองดูดีๆ คุณจะเห็นว่าชีวิตคุณดีแค่ไหนแล้ว

3. เริ่มเชื่อเสียทีว่าคุณพร้อมสำหรับก้าวต่อไป

บอกตัวเองได้เลยว่าคุณพร้อมอยู่แล้ว คุณมีทุกอย่างที่พร้อมจะทำให้คุณก้าวไป เพียงแต่ก้าวนั้น

อาจจะสั้นหรือจะ ย า ว แค่นั้น ถ้าโอกาสมาถึงคุณ คุณก็ควรจะคว้ามันไว้ (เหอะ)

เพราะคุณมีดีพอจะคว้าโอกาสไว้แล้ว

4. เริ่มยอมรับสิ่งต่างๆ แม้ว่ามันจะไม่สมบูรณ์แบบก็ตาม

จำไว้ว่า “สมบูรณ์แบบ” เป็นศัตรูกับ “ดี” เพราะมันทำให้หลายๆ ครั้งคุณไม่พอใจกับสิ่งที่ดีและมีอยู่แล้ว

จริงอยู่ว่าคุณอาจจะมีความทะเยอทะ ย า นและภาพฝันที่อ ย ากให้เป็น แต่ในหลายๆ ครั้ง

คุณก็ต้องยอมรับกับสิ่งที่ได้มาแม้ว่ามันจะไม่ได้เพอร์เฟคแต่มันก็ “ดี” อยู่แหละ และแม้ผลลัพธ์อาจจะ

ไม่ได้คะแนนเต็ม 100 แต่คุณค่าของมันอาจจะไม่ใช่แค่ผลลัพธ์แต่ยังมีเรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างทางอีกมากมายด้วย

5. เริ่มให้อภัยตัวคุณเองและคนอื่นๆ

การถือโทษโกรธ อ า ฆ า ต จะนำไปสู่อะไรได้นอกจากพันธนาการที่ทำให้เราจมดิ่งอยู่กับอารมณ์

และความ เ จ็ บ ป วดปลดปล่อยมันออกด้วยการบอกให้อภัยโดยเฉพาะกับตัวคุณเองนั่นแหละ

แล้วเผื่อแผ่ไปยังคนอื่นๆ ด้วย การให้อภัยไม่ใช่แปลว่าคุณลืมเรื่องที่เกิดขึ้นหรือเหมือนมันไม่เคยเกิดอะไรขึ้น

แต่มันคือการที่คุณยอมรับและปล่อยให้มันเป็นอดีตแทนที่จะให้ตามมาหลอนในปัจจุบัน

6. เริ่มจะจริงจังกับความสัมพันธ์ของคุณ

การจริงจังกับความสัมพันธ์เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างคุณค่าให้กับชีวิตคุณเอง เผชิญหน้า

กับคู่ของคุณแล้วบอกเขาว่าเขาสำคัญอย่างไรกับคุณ คุณไม่สามารถเป็นทุกๆ อย่างให้กับทุกๆ คน

แต่คุณสามารถเป็นทุกๆ อย่างให้กับคน “บางคน” ได้ และคุณต้องเลือก (เสียที) ว่าพวกเขาคือใคร

7. เริ่มเชียร์คนอื่น

การร่วมเชียร์และลุ้นไปกับคนอื่นคือหนึ่งในสิ่งที่ทำให้คุณเห็นคุณค่าบางอย่างนอกเหนือจากของตัวเอง

คุณต้องกล้าที่จะบอกว่าคุณชื่นชมคนอื่นเรื่องไหน เริ่มชื่นชมในสิ่งที่คนอื่นเป็นและร่วมเป็นกำลังใจ

ให้กับพวกเขายินดีไปกับเขา มันคือก้าวสำคัญที่ทำให้คุณได้เห็นความงามอื่นๆ ที่มีอยู่มากมายรอบตัวคุณ

8. เริ่มซื่อสัตย์กับตัวเองในทุกๆ เรื่อง

คุณรู้ตัวเองอยู่แล้วว่าอะไรดีไม่ดี และอะไรที่ต้องถูกปรับเปลี่ยนแต่เพราะที่ผ่านมาคุณไม่ซื่อสัตย์

กับตัวเองเลยไม่ได้ลงมือทำอะไรมันจึงเป็นเรื่องจำเป็นที่คุณต้องเริ่มซื่อสัตย์กับตัวเองว่าคุณคือใคร

ต้องการอะไร และต้องทำอะไร คนที่จะรับผิดชอบตัวคุณก็คือตัวคุณเอง และคุณคือคนที่จะออกแบบ

ตัวคุณเอง ออกแบบมันอย่างซื่อสัตย์ที่สุดจริงใจกับมันที่สุด เพราะนั่นคือสิ่งที่ตัวคุณคาดหวังจะได้จากคุณเช่นกัน

9. เริ่มให้ความสำคัญกับการสร้างความสุขให้ตัวเอง

ความต้องการของคุณมันเป็นสิ่งสำคัญเสมอเช่นเดียวกับคุณค่าของตัวคุณ ถ้าคุณยังไม่ให้คุณค่า

กับตัวคุณเองแล้วใครจะมาให้แทนได้อีก? จงจำไว้ว่าคุณสามารถหาทางให้ความสุขกับตัวคุณเองในขณะที่

ยังสามารถแคร์คนรอบข้างคุณได้ ไม่ใช่เอาแต่แคร์คนอื่นจนไม่ให้ความสุขตัวเอง

10. เริ่มเปิดเผยกับความรู้สึกที่แท้จริงของคุณ

ถ้าคุณเ จ็ บ ป ว ด ก็บอกว่าคุณ เ จ็ บ ป ว ด มันไม่มีใครสร้างอนุเสาวรีย์ให้คุณที่มัวแต่เก็บความรู้สึก

เอาไว้หรอก ในทางตรงกันข้าม การเผยความรู้สึกของคุณออกมาจะทำให้คนรอบข้างของคุณได้เข้าใจ

ตัวคุณมากขึ้นและทำให้คุณได้หาทางอยู่ร่วมกับคนอื่นได้มากขึ้นแทนที่จะต้อง

พ ย า ย า ม อดทนและฝืนแบกความทุกข์เอาไว้

11. เริ่มแข่งกับตัวเองแบบวันก่อนๆ

มันคงเป็นเรื่องไม่ดีแน่ถ้าคุณจะเป็นแบบเดิมตลอดไป คุณต้องเริ่มมองหาว่าคุณจะดีขึ้นจากเดิม

ได้อย่างไร อะไรคือสิ่งที่คุณจะได้ให้ได้มากกว่าเดิม ดีกว่าเดิม อย่าเพิ่งไปแข่งกับคนอื่น

(และเอาจริงๆ คือไม่ต้องไปแข่งกับคนอื่นหรอกครับ) แต่โฟกัสที่จะแข่งกับตัวเอง ให้ดีขึ้นไปเรื่อยๆ

12. เริ่มทัศนคติในเรื่องความเป็นไปได้และการคิดบวก

บอกตัวเองว่า “มันเป็นไปได้” คือพื้นฐานที่สำคัญของการทำให้คุณกล้าจะก้าวเดินต่อไป

กล้าจะรับโอกาสใหม่ๆ การคิดบวกคืออาวุธที่จะเอาชนะทัศนคติแง่ลบที่ บั่ น ท อ น ชีวิตและความรู้สึกของคุณ

ลองพูดคุยกับตัวคุณเอง เมื่อไรที่คุณรู้สึกแง่ลบขึ้นมา เปลี่ยนมันเป็นการคิดบวก ลงมือทำในสิ่งที่คุณเชื่อ

ลงมือในสิ่งที่คุณต้องการให้มันเกิดขึ้นทุกอย่างมันมีสองด้านอยู่แล้ว มันอยู่ที่ว่าคุณจะเลือกสนใจกับฝั่งไหนมากกว่ากัน

13. เริ่มเป็นตัวของคุณเอง อย่างจริงใจ และภูมิใจ

อะไรจะดีไปกว่าการที่คุณรู้สึกดีกับตัวคุณเอง ไม่ว่าคุณจะอยู่ในสถานะไหน มีพื้นฐานอย่างไร

คุณก็มีดีมากพอที่จะยินดีกับตัวคุณเอง (อย่างน้อยคุณก็ยังมีชีวิตอยู่แหละนา) อย่าไป พ ย า ย า ม

เป็นคนอื่นหรือคนที่คุณไม่ได้เป็นเพราะนั่นคือการ ดู ถู ก ตัวคุณเองอย่างไม่จำเป็นเลย

จงเป็นสิ่งที่ตัวคุณเองเป็น ในแบบที่ดีที่สุด แบบที่คุณภูมิใจกับมันที่สุด

14. เริ่มให้โอกาสกับคนที่คุณรู้จักใหม่ๆ

ฟังอาจจะดูแปลกๆ แต่คนที่คุณเพิ่งรู้จักใหม่อาจจะกลายเป็นเพื่อนสนิทที่ดีกว่าเพื่อนคนก่อน

ของคุณก็ได้ คุณต้องกล้าที่จะให้พวกเขาได้เข้ามาในชีวิตของคุณ ค้นหาว่าเขาเข้ากับคุณได้ดีแค่ไหน

จริงอยู่ว่าการรู้จักกับคนใหม่ๆ อาจจะเป็นเรื่องน่ากังวลอยู่บ้าง แต่มันก็อาจจะทำให้คุณเจอคนที่ “ใช่” ได้เช่นกัน

15. เริ่มสังเกตและใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบัน

การอยู่กับปัจจุบันคือเคล็ดลับการมีความสุข ถ้าคุณมัวแต่คิดเรื่องอดีต คุณก็จะไม่ไปไหน

ถ้าคุณกังวลแต่เรื่องอนาคต คุณก็จะลืมมองปัจจุบันไป อย่าลืมว่าทุกอย่างเริ่มต้นจาก

“วันนี้” ไม่ใช่ “เมื่อวาน” หรือ “พรุ่งนี้”

16. เริ่มมองหาความหวังแม้ใน ย า ม ย า ก

คนเราต้องเจอปัญหาและหลายๆ ครั้งทำเอาเราทรุดจนแทบไม่ อ ย า ก ลุกขึ้นมา อย่าเพิ่งไปยอมแพ้

มันแต่มองหาความหวังที่แม้จะน้อยนิดแต่ก็ดีเสียกว่าไม่มีอะไรเลย แม้แสงสว่างจะมีน้อยนิดในความมืด

แต่นั่นก็ทำให้มันไม่มืดสนิทจนมองไม่เห็นอะไร อย่าลืมบอกตัวเองว่าทุกครั้งที่ ย า ก ลำบากจะทำให้คุณแกร่งขึ้น

ความหวังนี้จะทำให้คุณไปถึงสิ่งที่ดีกว่าในวันข้างหน้าสักวัน

17. เริ่มก้าวไปสู่เป้าหมายที่คุณวางไว้ในทุกๆ วัน

อย่าผลัดวันประกันพรุ่ง คุณรู้ดีว่าเป้าหมายของคุณคืออะไรและคุณจะไปไม่ถึง ถ้าคุณไม่ก้าวไปหามัน

วางแผนให้ดีและลงมือทำในทุกๆ วัน จะเล็กจะน้อยก็ให้มันขับเคลื่อนไป ฉะนั้นเริ่มทำอะไรเสียแต่วันนี้

แล้ววันหนึ่งคุณก็จะไปถึงเป้าหมายได้แน่นอน

18. เริ่มให้คุณค่ากับความผิดพลาดที่สอนคุณ

ทุกความผิดพลาดคือบทเรียนที่จะทำให้คุณโตขึ้น มันจึงควรค่าที่จะถูกมอง และให้ความสำคัญ

มากกว่าจะมองข้ามมันไป ความผิดพลาดมันเหมือนขั้นตอนไปสู่ความสำเร็จให้ความสำคัญ

และเรียนรู้มันไปกับย่างก้าวของชีวิตคุณ เพื่อให้คุณไปสู่วันใหม่ที่ดีกว่าเดิมสิครับ

19. เริ่มช่วยเหลือคนรอบข้างคุณ

ยิ่งคุณช่วยคนอื่นมากเท่าไร คนอื่นจะช่วยคุณกลับมากขึ้น (ในอนาคต) ความรักและน้ำใจ

เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้เราชื่นใจกับการมีชีวิตและคุณไม่มีทางได้มันมาหากคุณยังไม่เริ่มจะมอบให้คนอื่น

20. เริ่มใส่ใจกับความงามเล็กๆ น้อย

แทนที่จะรออะไรยิ่งใหญ่มาสร้างความประทับใจ ลองมองอะไรที่งดงามรอบตัวคุณ ที่แม้จะไม่ใช่อะไร

ที่ใหญ่โตแต่มันก็มีคุณค่า รอยยิ้มจากคนรอบข้าง น้ำใจของคนที่ผ่านไปผ่านมา ฯลฯ สิ่งเหล่านี้มันทำให้คุณ

รู้สึกว่าโลกนี้ยังมีอะไรดีๆ อีกเยอะให้คุณค้นหา ความสุขมันอยู่รอบตัวคุณ โดยที่คุณไม่ต้องทนรออะไรใหม่ๆ

เสมอไป และบางทีมันก็ทำให้ชีวิตของคุณเปลี่ยนไปได้ทันทีเลยด้วยซ้ำ

21. เริ่มฟังเสียงลึกๆ ของตัวคุณเอง

หลายๆ ครั้งคุณต้องกล้าฟังเสียงลึกๆ ของตัวคุณเอง เพราะนั่นคือความรู้สึกที่แท้จริงของคุณ

ให้โอกาสมัน ซื่อสัตย์กับมัน และกล้าให้มันเป็นเสียงของคุณในวันนี้

22. เริ่มมีความสุขกับสิ่งที่คุณมี

อย่าเพิ่งไปคิดถึงสิ่งที่คุณยังไม่มี หรือคาดคิดว่าจะมี เพราะมันยังมาไม่ถึง

และนั่นกลายเป็นปัญหาอย่างมากของคนหลายคนคือคิดว่าจะมีความสุขได้ต่อเมื่อ

ต้องมีอย่างนั้นมีอย่างนี้คุณต้องไม่ลืมว่าของที่คุณมีอยู่ทุกวันนี้ก็เพียงพอจะสร้างความสุข

ให้คุณได้อยู่แล้ว (และเอาจริงๆ คุณก็เคยมีความสุขกับมันมาแล้ว) ยิ้มให้กับมันหน่อยสิครับ

23. เริ่มสนใจกับสิ่งที่คุณควบคุมได้

คุณไม่สามารถเปลี่ยนแปลงทุกอย่างได้ แต่อย่างน้อยคุณก็มีสิ่งที่คุณสามารถควบคุมได้ และนั่นคือ

สิ่งที่คุณควรเอาสติและสมาธิมาจดจ่อกับมัน อย่าไปเสียเวลากับสิ่งที่คุณควบคุมไม่ได้

แต่ใช้เวลาให้คุ้มค่าที่สุดกับสิ่งที่คุณสามารถ “ทำได้”

24. เริ่มรับผิดชอบกับชีวิตตัวเอง

อย่าเอาชีวิตคุณไปฝากไว้กับคนอื่น คุณคือเจ้าของชีวิตคุณเอง เริ่มให้ความสนใจ

ให้ความสำคัญกับมันเพราะคุณคือคนที่จะต้องอยู่กับมันไปทั้งชีวิต (และเป็นคนสุดท้ายด้วย)

รับผิดชอบในตัวเองคือสิ่งสำคัญที่คุณต้องทำ อย่าโยนความรับผิดชอบให้คนอื่น

เพราะเขาไม่ได้มานั่งรับผิดชอบอะไรกับชีวิตของคุณหรอก มีแต่คุณเองเท่านั้น

ที่จะกำหนดว่าชีวิตของคุณจะเป็นอย่างไรต่อไป

25. เริ่มใส่ใจกับความ เ ค รี ย ด ของคุณและหยุดพักเสียบ้าง

การให้โอกาสตัวคุณเองได้หยุดพัก ได้ตั้งสติ เป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้คุณก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง

การ พ ย า ย า ม เค้นตัวเองมากเกินไปก็จะ ทำ ร้ า ย ตัวคุณเองแทนที่จะผลักดันคุณ

ถ้าคุณรู้สึกว่ามันตึงเกินไป มันเข้มเกินไป ก็พักเสียงบ้างดีกว่า

26. เริ่มสุภาพกับตัวเอง

จะมีประโยชน์อะไรถ้าคุณเอาแต่ด่าตัวเองด้วยคำห ย า บ เราต่างรู้ดีกันว่า

การใช้คำ ห ย า บ มันมีแต่ทำให้ตัวเองรู้สึกแย่เท่านั้น ฉะนั้นแล้ว คุณไม่ควรจะ ทำ ร้ า ย

คนที่คุณควรรักมากที่สุด (ก็ตัวคุณเองนั่นแหละ) ด้วยคำพูดแบบนั้นเลย

27. เริ่มเผชิญหน้ากับปัญหาของคุณ

ปัญหาต่างๆ ไม่ได้เป็นตัวบ่งบอกความเป็นตัวคุณ แต่วิธีการที่คุณจัดการกับปัญหา

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับมันคือสิ่งที่สะท้อนความเป็นตัวตนของคุณต่างหาก เช่นเดียวกัน

ปัญหาจะไม่มีวันหายไปถ้าคุณไม่ลงมือทำอะไรสักอย่าง เริ่มลงมือแก้ปัญหา แม้ว่ามัน

จะทีละเล็กทีละน้อย แต่มันก็คือก้าวที่ทำให้คุณเดินไปข้างหน้า ไม่ใช่นิ่งๆ อีกต่อไป

28. เริ่มใช้เวลากับคนที่ใช่

การอยู่กับคนที่ใช่ คนที่คุณควรแคร์ และคนที่แคร์คุณคือช่องเวลาที่สุดจะมีค่าของชีวิตคุณ

พวกเขาคือกลุ่มคนที่ทำให้คุณรู้สึกถึงคุณค่าของการมีคนสำคัญอยู่ข้างๆ พวกเขามอบความรัก

และมิตรภาพที่แท้จริงให้กับคุณ มองหาพวกเขาให้เจอว่าคือใคร พวกเขาคือคนที่อยู่

กับคนใน ย า ม ย า ก ลำบาก เขาคือคนที่ยอมรับในสิ่งที่คุณเป็นเช่นเดียวกับสิ่งที่คุ

อ ย า กจะเป็นโดยไม่มีข้อแม้ใดๆ หาคนเหล่านั้นให้เจอครับ

29. เริ่มสร้างความสุขของคุณเอง

คนบางคนมักไปรอมีความสุขกับความสุขของคนอื่น และยิ่งถ้าคุณรอ มันก็ยิ่งเหมือนเอาชีวิต

ของคุณไปฝากไว้กับคนอื่น ซึ่งก็ไม่รู้ว่ามันจะสำเร็จเมื่อไร แล้วทำไมคุณไม่สร้างความสุข

ของตัวคุณเองด้วยตัวคุณเองล่ะ? หาความสุขในแบบของคุณเองที่คุณสามารถทำได้ด้วยตัวเอง

เสียดีกว่า ความสุขนั้นมักจะปรากฏเมื่อคุณ พ ย า ย า ม จะค้นหามันและเอาจริงๆ

คุณก็จะเจอมันในชีวิตของคุณอยู่แล้วล่ะ

30. เริ่มมีความสัมพันธ์ใหม่ด้วยเหตุผลที่ดีพอ

คนรอบข้างคุณคืออีกด้านหนึ่งของการแสดงว่าคุณเป็นคนยังไง ความสัมพันธ์นี้ไม่ใช่แค่คู่รักอย่างเดียว

แต่หมายถึงเพื่อนๆ และคนสำคัญรอบตัวคุณด้วย กลุ่มเพื่อนคือสัญลักษณ์ที่บอกว่าคุณเป็นคนยังไง

ฉะนั้นแล้วพิจารณาพวกเขาให้ดีโดยเฉพาะสิ่งที่พวกเขากระทำ เพราะนั่นคือสิ่งที่สะท้อนตัวตนของพวกเขานั่นเอง

Load More Related Articles
Load More By babyghost34
Load More In ข้อคิดเสริมกำลังใจ
Comments are closed.

Check Also

แบบนี้ไม่ได้เรียกว่าความรักหรอก..ถ้ามีรักแล้วไม่ใส่ใจ..อย่ าเสียเวลา

มีรักแล้วไม่ใส่ใจ มันไม่ได้เรียกว่าความรักหรอก รัก คือส … …