1. แบ่งเงินใช้เป็นเดือนๆ ไป
ณ ตอนนี้คุณอาจจะยังไม่เห็นประโยชน์การเก็บเงิน พอเงินเดือนออก
ก็ใช้จ่ายไม่สนแต่ละเดือนแทบจะไม่ได้คำนวณเลยว่าหมดมากน้อย
แค่ไหน และเมื่อทำแบบนี้เรื่อย ๆ การออมคงไม่เกิดขึ้น
ฉะนั้นเราควรแบ่งเงินตามสัดส่วนที่พอเหมาะอาจแบ่งเป็น
บัญชีเงินออมบัญชีจ่ายบัญชีเก็บแล้วคุณ
จะรู้ว่าอะไรที่ควรประหยัด อะไร ที่จำเป็นต้องจ่ายบ้าง
2. อะไรที่ไม่จำเป็น ตั ดออก ให้เงินเหลือมากขึ้น
ก็ในเมื่อเรามีความตั้งใจที่จะเก็บเงินแล้วก็เท่ากับว่า
คุณมีจุดมุ่งหมายและวิธีลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น
มันจะช่วยให้มีเงินเหลือเช่นในแต่ละเดือนต้อง
การเก็บเงินแค่ไหนเท่าไหร่จากนั้นจึงค่อยลดการใช้จ่าย
กับสิ่งที่ไม่จำเป็นออกไปเพื่อให้เงินเก็บถึงที่กำหนด
หากคุณไม่มีการตั้งเป้าหมายในการเก็บ คุณก็จะไม่มี
หลักให้ยึด อาจพลาดโอกาส ในการออมเงินก็ได้
3. เก็บเงินสำหรับออมเงิน
เช่นเก็บเงินจำนวนสามสิบเปอร์เซนต์ที่ได้รับในแต่ละเดือน
แล้วมันทำให้ คุณมีเงินเก็บแต่ทว่าหากเราคำนวณดีๆ แล้ว
รายจ่ายเยอะ อาจจะลดเหลือสักยี่สิบเปอร์เซนต์ก็ได้
เพราะนอกจากจะมีเงินเหลือและเราเองยังไม่เดือดร้อนด้วย
ถ้าต้องการใช้เงินในเวลาที่จำเป็นมากๆ
4. หยอดกระปุก ให้สม่ำเสมอ
บางคนไม่รู้จะเริ่มยังไงและการหยอดกระปุกมัน เป็นการเริ่มต้น
ที่ง่ายที่ใครก็ทำได้นอกจากจะสามารถเก็บเงินให้ลูกน้อยได้
แม่ๆ ยังสามารถแยกเก็บเงิน ในส่วนต่างๆ ได้อีกนะแล้วเป้าหมาย
จะเป็นแรงจูงใจให้การเก็บเงินสำเร็จเร็ว ในยุคนี้วิธีนี้ก็ยังใช้ได้
ถ้าการใช้จ่ายของคุณแม่ไม่ได้เดื อดร้อนอะไรก็จะทำ
ให้เงินเก็บงอกเงยขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเก็บเงินได้จำนวนนึงฝากธนาคาร เอาไว้
เพื่อกิน ด อ ก
5. จัดการเงินออมให้เป็นระบบระเบียบมากขึ้น
เราอาจจะตั้งเป้าสำหรับการออมไว้ก่อนจากนั้นก็ปรับไลฟ์สไตล์
ให้เข้ากับเงินที่เหลือจนเป็นนิสัยเราในแต่ละเดือนนั้น
จะทำให้คุณเก็บเงินได้ไม่ย าก เลยและคนส่วนใหญ่จะคิดว่า
ควรหักรายจ่ายทุกอย่างจึงค่อยออม ในเมื่อคิดเช่นนี้ ก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิด
แต่หลายคนมักจะใช้จ่ายจนเงินเก็บเหลือไม่ถึงตามเป้า
และวิธีการนี้จะช่วยให้คุณประหยัด และรู้ว่าเดือนๆ หนึ่งคุณใช้จ่าย
ได้แค่ไหนกัน