ถ้าความรักเป็นเรื่องที่เลือกได้ หลายคนก็อย ากเลือกที่จะให้แฟนมาอยู่ใกล้ๆ ทำอะไรได้ดั่งใจเราทุกอย่ าง แต่เพราะความรัก
มันไม่ใช่เรื่องที่ควบคุมได้ และคนรักก็ไม่ใช่ทาสรับใช้นี่สิ มันเลยย ากตรงนี้! แต่ก็ใช่ว่าความรักที่เลือกไม่ได้ อย่ างเช่นรักระยะไกล
จะเป็นเรื่องที่แย่เสมอไปนะจ๊ะสาวๆ จริงอยู่ที่เรารู้สึกเหงากว่าคนอื่น จะทำอะไร จะไปไหน ส่วนใหญ่ต้องทำเหมือนตัวคนเดียว
ต้องอดใจรอ ร๊อ รอ อีกนานกว่าที่จะนัดเจอกันอีก แต่ก็ใช่ว่ามันจะไม่มีข้อดีเสียเลยหรือเป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่ใช่รักแท้
เกริ่นซะย าวขนาดนี้ มามะ มาดูข้อดีกันทีละข้อ เผื่อว่าสาวคนไหนที่กำลังห่อเหี่ยวใจที่แฟนไกลกันจะได้ชื่นใจ พอมีหวังกันอยู่บ้าง
1 : ระยะห่างมันทำให้เราต่างคนต่างรู้หน้าที่ของตัวเอง ถ้าได้อยู่ใกล้กัน หลายคนก็เลือกที่จะเจอกันหน้าทุกวัน ไปไหนมาไหน
ด้วยกันทุกวัน จนบางทีก็มีจุดอิ่มตัวเบื่อขี้หน้ากันบ้าง ทะเลาะกันบ้างเริ่มก้าวก่ายชีวิตกันบ้าง ยิ่งสำหรับวัยเรียนแล้วมันไม่โอเคเอาซะเลย
(เดี๋ยวเรียนไม่รู้เรื่องเนาะ มีแต่เรื่องรักมารังควาน) แต่พอได้อยู่ไกลกันปุ๊บ! ช่องว่างระหว่างกันนี่แหละจะทำให้ต่างคนต่างปรับตัวอัตโนมัติ
” เราจะผ่านแต่ละวันด้วยกันได้อย่ างไร ” เดี๋ยวไปเรียนก่อนนะ แล้วเลิกเรียนจะไลน์หา เดี๋ยวทางนั้นทำงานก่อนนะ เราก็หาอะไรทำ
ระหว่างที่รอคุยกัน ซึ่งโดยรวมแล้วก็ถือว่าเป็นช่องว่างที่ ” แฟร์ๆ ” กันดีทั้งสองคนเนอะ ต่างฝ่ายต่างรู้หน้าที่ หาเวลาว่างกันได้เมื่อไหร่
ค่อยคุยกัน ถือว่าเป็นการแยกความรักกับเรื่องส่วนตัวได้เป็นสัดส่วนดีมาก
2 : เรื่องที่เซอร์ไพรส์กันอยู่ในระดับที่ตื่นเต้นและลุ้นมากกว่าคู่รักใกล้กันที่บอกกันไว้ว่าไม่ว่างจะมาเจอกัน วันดีคืนดีเขาอาจจะมา
ดักรอเราที่หอพักก็ได้ หรือที่ทำเป็นแกล้งลืมวันสำคัญ ก็อาจจะได้ของขวัญ เป็นอะไรก็ได้ส่งมาทางไปรษณีย์ มันเหนือความคาดเดา
กว่าคู่รักใกล้กันที่เราสามารถเดาได้จากพิรุธต่างๆ เช่น เพื่อนของเราที่รู้เห็นเป็นใจ, พิรุธของเขาที่ผิดสังเกตไปจากเมื่อวาน
( การันตีได้เลยว่า มุกเซอร์ไพรส์ของคนไกลไม่มีวันซ้ำซากให้เราเดาทางได้หรอก ตื่นเต้นมั้ยล่ะ ^^ )
3 : ระยะห่างมันทำให้เราเข้าใจถึงความเชื่อใจและไว้ใจกันเป็นอย่ างดี ถ้าเราเป็นคู่รักที่ใกล้กันมาก ห่างกันแค่ไม่กี่ชั่วโมง
หรือไม่กี่วัน มันก็ต้องมีบ้างละที่เริ่มถามว่า “แน่ะ! จะไปไหน? ไปกับกิ๊กรึเปล่า? ” ถามกันเล่นๆ ไม่กี่ครั้งมันก็พอเป็นเรื่องสนุก
แต่ถ้าถามมากไปบางทีก็เหมือนชี้โพรงให้กระรอกไม่นำไปสู่การทะเลาะกันเพราะไม่เชื่อใจกัน ก็นำไปสู่การมีกิ๊กกันจริงๆ ในที่สุด
แต่สำหรับคู่รักที่ไกลกัน ถึงแม้จะเหงาบ้าง อาจมีรู้สึกแว้บมาบ้างว่า ” เขาจะไปทำอะไรไม่ดีรึเปล่า? ” จุดนี้ก็ทำได้แต่ปลงและปล่อย
วาง ถ้ารักกันมากพอ จับมือกันแน่นพอ อย่ างไรเสีย เรื่องที่ไม่ดีก็ไม่เกิดขึ้นหรอก เราต้องเชื่อใจและไว้ใจกันให้มากในสิ่งที่เราต่างคน
ต่างก็มองไม่เห็นกัน พอถึงวันที่ได้ใกล้กันกว่านี้ เขาจะออกไปไหน เราจะไปทำอะไร เรื่องพวกนี้จะกลายเป็นเรื่องเล็กไปทันทีเลย
4 : ทำให้เราเห็นคุณค่าของความรักที่มีมากกว่าเ รื่ อ ง บ น เ ตี ย ง ” ขอแค่ได้คุยกันก็ชื่นใจแล้ว ” ไอ้เรื่องหวังว่าจะเจอกันน่ะ
ใครก็หวังทั้งนั้นแหละจ้ะ แต่สำหรับรักระยะไกลล่ะก็… มันจะมีกระบวนการยับยั้งชั่งใจในเ รื่ อ ง บ น เ ตี ย ง เกิดขึ้นมากกว่าคู่รัก
ที่อยู่ใกล้กันซะอีก คืออย่ างน้อยก็ช่วยกันคิดว่า ถ้าทำลงไปแล้วเกิดเลิกกันในตอนหลังมันไม่โอเคหรอกนะที่ต้องทิ้งให้อีกฝ่าย
รับผิดชอบคนเดียวเอาไว้ได้ใกล้กันกว่านี้ดีกว่ามั้ย? ต่างจากคู่รักที่อยู่ใกล้กันทุกวัน ที่แทบจะแยกไม่ออกเลยว่ารัก
กับเ รื่ อ ง บ น เ ตี ย ง คืออะไรในเมื่อเห็นหน้ากันตลอด การใกล้ชิดกันมันก็เรื่องธรรมดาหนิ!?!?
5 : ระยะห่างทำให้เรารักตัวเองเป็น ถึงจะอยู่ตัวเดียว มีเหงาบ้าง แต่ก็ใช่ว่าจะถึงขั้นอ้างว้าง วังเวง เรายังมีกิจก ร ร มอีกมาก
ที่รอเราอยู่ ( เล่น เรียน ไปเที่ยวกับเพื่อน ทำงานพาร์ทไทม์ ฯลฯ ) ที่เราสามารถทำอะไรได้เองโดยไม่ต้องรอความช่วยเหลือคนอื่น
เป็นคนเก่งสารพัดด้านเพราะฝึกทำอะไรด้วยตัวเองไปหมด จุดนี้ถือว่าเป็นข้อดีที่แฟนจะภูมิใจมากๆ นะ ที่เราไม่ต้องมีเรื่องให้กังวลใจ
อะไรมาก ”ฉันดูแลตัวเองได้ ยังไหวนะ เธอไม่ต้องคิดมากหรอก แค่คิดถึงกันก็พอ ”
6 : ทำให้เราเป็นคนมีเป้าหมายร่วมกัน คู่รักที่อยู่ใกล้กัน เจอหน้ากันทุกวัน ส่วนใหญ่มักจะติดอยู่กับ ” ความเคยชิน ”
จนลืมวางแผนอนาคตร่วมกันว่าจะเอายังไงต่อไปดี แค่วันนี้ได้คุยกัน เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็เจอกันละ งอนกันวันนี้ เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็หายเองแหละ ฯลฯ
แต่ถ้าเป็นคู่รักที่ไกลกันล่ะก็ … อย่ างน้อยต้องมีจุดหมายร่วมกันว่า พรุ่งนี้จะคุยกันกี่โมง เดี๋ยวจะมาเจอกันอีกทีเดือนไหน? ตอนที่เจอกัน
เราจะไปเที่ยวไหนบ้าง? เราจะวางแผนอย่ างไรดีให้มาใกล้กันกว่านี้ทั้งหมดนี้ก็เพื่อสลายความกลัวในสิ่งที่เราต่างคนต่างมองไม่เห็น
คาดเดาไม่ได้ มีความหวังและกำลังใจร่วมกันว่าพรุ่งนี้ต้องดีกว่า ถือว่าเป็นการฝึกการวางแผนอนาคตร่วมกันก็ไม่ผิดนัก
ความรักไม่ได้ขึ้นกับระยะทาง หากแต่เป็นเรื่องของหัวใจ อยู่ใกล้กันก็เลิกกันได้ ถ้าใจไม่ตรงกัน
อยู่ไกล คุยกันทุกวันก็เลิกกันได้ ถ้าไม่มีใจให้กันแล้ว
ยังจับมือกันแน่นพอรึเปล่า?
บีบแรงไปมั้ย?
ปล่อยจนหลวมเกินไปมั้ย?
ถามใจตัวเองดีๆ อย่ าโทษสิ่งแวดล้อมอื่นนอกจากตัวเรา และหัวใจของเรา