9 สิ่งที่คนแก่อย่างฉันเพิ่งคิดได้ ย้อนเวลาไปได้ฉันจะแก้ไขมัน

คุณเคยรู้สึกเสียใจ หรืออย ากย้อนเวลากลับไปแก้ไขอะไรมั้ย ? หลายๆ ครั้ง

เรามักรู้สึกว่าเราน่าจะทำอดีตให้มันดีกว่านี้ เพื่อที่ตอนนี้และอนาคตของเราจะได้ดีกว่าที่เป็นอยู่

มาดู 10 สิ่งที่คนส่วนใหญ่จะรู้สึกเสียดาย เสียใจ และเพิ่งคิดได้ตอนแก่กันค่ะ

และถ้าคุณเป็นคนที่อายุน้อยกว่า 40 หล่ะก็ นี่คือโอกาสดี ที่จะลบความผิดพลาดเหล่านี้ออกจากชีวิต

 

1 : สนใจกับความคิดของคนอื่นมากเกินไป

เมื่อคุณแก่ตัวลง คุณจะเริ่มคิดว่า เอ๊ะ ทำไมตอนนั้นคุณต้องเสียเวลาไปกับการนั่งร้องไห้

เครียด หรือกังวล กับสิ่งที่คนอื่นๆ บอกว่า คุณมันอ้วน ดำ โง่ ไร้สติ และไม่มีอะไรดีคุณจะเริ่มคิดได้ว่า

คำพูดของคนอื่น ไม่ได้มีอิทธิพลหรือทำให้คุณรู้สึกแย่ได้

หากคุณไม่ยินยอมที่จะแบกรับความรู้สึกแย่ๆ เหล่านั้น ปฏิกริย าของคนอื่นๆ มีผลกับคุณแค่ไม่กี่วินาที

แต่หลังจากนั้นความคิดวนเวียนของคุณต่างหากที่ทำร้ า ยตัวคุณเอง

2 : สนใจแต่เรื่องของตัวเอง

ใครจะไปรู้ว่า ตอนคุณเหยียบวัย 70 ที่คุณมีพร้อมทุกอย่ าง บ้าน รถ ที่ดินและทรัพย์สินมหาศาล

คุณจะเริ่มคิดได้ว่า ที่ผ่านมาคุณเอาแต่สนใจเรื่องของตัวเองจนลืมคนอื่นๆ

คุณเอาแต่คิดว่าจะทำยังไงให้คุณรวยขึ้น จะทำยังไงให้คุณมีชื่อเสียง ?

แล้วคุณก็หลงลืมคนรอบข้าง ลืมว่าพ่อแม่ เพื่อนสนิท คู่รัก ลูกๆ ของคุณ

พวกเขามีชีวิตความเป็นอยู่ยังไงพวกเขาอย ากแช ร์ความรู้สึกอะไรกับคุณบ้างมั้ย

 

3 : กลัวที่จะทำสิ่งต่างๆ

หลายครั้งที่คนเรามักจะกลัว และไม่กล้าออกจาก comfort zone

ไม่กล้าที่จะตัดสินใจอะไรอย่ างเด็ดเดี่ยว กลัวความผิดพลาด กลัวการเปลี่ยนแปลง

และกลัวสิ่งใหม่ๆหากคุณรู้สึกว่าตัวเองมีพฤติก ร ร มและความคิดแบบนี้อยู่ ถึงเวลาแล้วหล่ะที่คุณต้องเปลี่ยน

เพราะถ้าคุณไม่กล้าที่จะเปิดรับสิ่งใหม่ๆ และกลัวการเปลี่ยนแปลง ชีวิตคุณจะไม่มีวันพัฒนาขึ้นเลย

โดยคุณอาจเริ่มต้นจากการเข้าไปอยู่ในสังคมใหม่ๆ เริ่มทำความรู้จักผู้คนจากงาน networking

เริ่มเข้าครอสเรียนภาษาที่ 3 หรือเริ่มทำโปรเจ็คงานที่คุณเคยปฏิเสธ เป็นต้น

4 : ทนอยู่กับคู่รักและความสัมพันธ์แย่ๆ

หลายคนคิดว่า “คนรักของคุณจะเปลี่ยนนิสัยแย่ๆ ของเค้าได้” ขอให้คุณจงหยุดความคิดนั้นไว้สะเดี๋ยวนี้

สิ่งที่คุณไม่รู้คือ มีคนจำนวนมาก ที่เลิกกับคู่รักในวัย 30

ทั้งๆ ที่พวกเขาควรจะแต่งงานกันทำไมหน่ะหรอ ? เพราะไม่มีใครที่จะยอมปรับเปลี่ยนตัวเองได้ง่ายๆ

และไม่มีใครอย ากทำ และเมื่อวัย 30 มาถึง พวกเขาจึงได้เรียนรู้ว่า “คนไม่ใช่ ก็คือไม่ใช่” สิ่งที่คุณควรจะทำคือ

เลิกให้เขาปรับเปลี่ยนนิสัยตัวเอง แต่ควรที่จะเลือกเดินออกมาแทน

 

5 : ไม่ลาออกจากงานที่แย่

ในวัย 50 ปี คุณตื่นเช้ามา แล้วพบว่ามีบิลค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่างวดบัตรเครดิตอยู่บนโต๊ะ

และคุณก็เริ่มตระหนักได้ว่า ที่ผ่านมา คุณทำงานที่คุณไม่ได้ชอบ มีเพื่อนร่วมงานนิสัยเสีย เจ้านายแย่ๆ

และความกดดันต่างๆ นานา เพื่อให้แต่ละเดือนคุณมีเงินยังชีพและจ่ายบิลเท่านั้นนี่คือสิ่งที่คุณตามหาในชีวิตหรอ ?

ถ้าคำตอบคือไม่ใช่..แล้วทำไมคุณต้องทนทำงานแย่ๆ เพื่อมาจ่ายบิลตอนต้นเดือนด้วยหล่ะมันคงจะดีกว่า

ถ้าที่ผ่านมา คุณจ่ายบิลต่างๆ ด้วยรอยยิ้ม เพราะมันเป็นเงินส่วนหนึ่งที่คุณหยิบออกมา

อันเป็นผลพวงจากการทำงานที่ชอบ เจอเพื่อนและเจ้านายดีๆ ในทุกวัน

6 : ไม่ออกไปเที่ยว ตอนที่คุณยังมีแรงและเวลา

การไปเที่ยวตอนแก่ ไม่ใช่เรื่องง่ายและเรื่องสนุกอีกต่อไป จินตนาการว่าคุณอย ากจะปีนเขาเอเวอร์เรส ในวัย 50 กับลูกๆ

แต่คุณไม่มีเรี่ยวแรงมากพอ ดังนั้นเลิกคิดไปเลยว่าคุณจะทำงานหนักวันนี้ และเก็บเงินไปเที่ยวตอนเกษียณ

เพราะถึงเวลานั้นคุณอาจทำได้แค่เดินตามไกด์ทัวร์ด้วยสีหน้าง่อยๆ เดินไม่ถึง 30 นาที

ก็เมื่อยขาก็ได้ลองแบ่งเงินออมส่วนหนึ่งในการท่องโลกสิ อาจเริ่มจากเก็บเงินวันละ 50-100 บาท

พอปลายปีคุณก็ได้ไปเที่ยวทริปดีๆ หลายทริปแล้ว

 

7 : ยุ่งกับงานตลอดเวลา

คุณรู้มั้ย น้อยคนมากๆ ที่อายุย่ างเข้าวัย 70 แล้วจะคิดถึงชีวิตในออฟฟิศของพวกเขา

คิดถึงงานอันท้าทายบนโต๊ะ คิดถึงลูกค้าที่พวกเขารัก.. เพราะในความเป็นจริงแล้ว

เมื่อคุณแก่ตัวลง สิ่งที่คุณจะคิดถึงก็จะมีแต่… ตัวคุณเอง ลูกๆ หลานๆ เพื่อน ภรรย า สามี และพ่อแม่ของคุณ

คุณจะคิดวนเวียนว่าอย ากใช้เวลากับพวกเขามากกว่านี้ คุณอย ากออกไปเที่ยวกับพวกเขา นั่งกินอาหารบนโต๊ะที่อบอุ่น

และหัวเราะอย่ างสนุกสนานพอนึกย้อนกลับไปคุณก็ได้แต่คิดว่าทำไมคุณเอาเวลา 10 กว่าชั่วโมงต่อวัน

ทำงานที่ออฟฟิศ แทนที่จะใช้เวลากับคนรอบข้างนะ

8 : ละเลยคำแนะนำของพ่อแม่

ข้อนี้อาจจะเ จ็ บ ป ว ดใจไปสักหน่อย เพราะตอนคุณอายุ 30 คุณยังรู้สึกว่า

“การเลือกชีวิตด้วยตัวเราเองเป็นสิ่งที่ดีที่สุด” อยู่เลยแต่เมื่อชีวิตคุณก้าวเข้าสู่วัยทอง

คุณจะเริ่มคิดว่า “หากตอนนั้น ฉันเชื่อพ่อแม่ ชีวิตต้องดีกว่านี้แน่ๆ”

แน่นอนว่า พ่อแม่ของพวกคุณ อาจไม่ได้พูดถูกต้องไปสะทุกเรื่อง แต่อย่ างน้อย

พวกเขาก็เป็นคนๆ หนึ่ง ที่หวังดีกับพวกคุณและพวกเขามีประสบการณ์ชีวิตที่มากกว่า

9 : ไม่ดูแลสุขภาพร่างกาย

โดยเฉพาะฟัน คนส่วนใหญ่เอาแต่ครุ่นคิดว่า ถ้าตอนนั้นพวกเขาแปรงฟันให้ดีกว่านี้

วันนี้คงไม่ต้องใส่ฟันปลอม และบางทีพวกเขาก็เผลอคิดว่าถ้าพวกเขาออกกำลังกายวันละนิดวันละหน่อย

ตอนนี้พวกเขาคงไม่เป็น โ ร คหลอดเ ลื อ ดและหัวใจ โ ร คเบาหวาน โ ร คข้อต่อและกระดูก

และความดันสูง“แน่นอนว่าการป่วยหลังเกษียณทำให้ความสนุกจากการใช้เงินที่คุณเก็บมาทั้งชีวิต น้อยลงไปกว่าครึ่งแน่นอน”

 

Load More Related Articles
Load More By babyghost34
Load More In ข้อคิดเสริมกำลังใจ
Comments are closed.

Check Also

แบบนี้ไม่ได้เรียกว่าความรักหรอก..ถ้ามีรักแล้วไม่ใส่ใจ..อย่ าเสียเวลา

มีรักแล้วไม่ใส่ใจ มันไม่ได้เรียกว่าความรักหรอก รัก คือส … …