6 สิ่งย้ำเตือน เริ่มคิดได้แล้ว มนุษย์เงินเดือนยุคนี้ควรรู้ไว้

1. หาคนที่เป็นมากกว่าเพื่อน ในที่ทำงานให้เจอ

“เพื่อน” กับ “เพื่อนร่วมงาน” มันต่างกันยังไง? ที่เขาบอกว่ายิ่งโตยิ่งหาเพื่อนยาก

ก็คงจะจริง สมัยประถมการหาเพื่อนใหม่ไม่ย า กเหมือนมัธยมและการหาเพื่อน

ในสมัยมัธยมก็ไม่อย ากเท่าตอนเข้ามหาลัย มันคือยิ่งเราโตขึ้นเราจะหาเพื่อนยาก

และไม่ต้องบอกเลยว่า การหาเพื่อนที่จริงใจในออฟฟิศเนี่ย มันย ากแค่ไหน

ถามตัวเองว่า “ถ้าเราลาออกจากที่นี่เรายังจะอยากนัดคนนี้กินข้าวกันไหม?”

หากคำตอบคือใช่ นั่นแหละคุณเจอเพื่อนจริงใจในที่ทำงานแล้ววนะ

2. อย่าเป็นตัวเองเกินไป ในโลกอ อนไ ลน์

หลายคนว่าโลกอ อนไ ลน์เป็นพื้นที่ส่วนตัว แต่รู้รึเปล่าว่า H R สมัยนี้

นอกจาก resume เราแล้วเขายังดูเฟ สเราด้วยเพื่อนเราที่เป็น H R

บอกว่าหน้าเฟสบอกความเป็นตัวตนของเรา ได้มากกว่าไงสิ่งที่เราโพส

ลงบนโลกอ อนไ ลน์ มีผลกับเราตั้งแต่ก่อนเข้างานเมื่อเราเป็นมนุษย์เงินเดือน

เต็มตัวนั้นเรื่องพวกนี้ยิ่งต้องระวัง

3. เราไม่ได้เกิดมา เพื่อทำงานอย่ างเดียวนะ

เราไม่ได้ทำงานแล้วกลับบ้านแฮปปี้ทุกวัน บางครั้งกลับไปบ้านแล้ว

อยากจะลาออกมันซะแต่ถ้าเรามีเป้าหมายอื่นๆในชีวิต

เช่น เก็บเงินซื้อบ้าน รถ เที่ยว การเปลี่ยนมาทำเรื่อง

ที่เราชอบจะทำให้อารมณ์ดีขึ้น และเพิ่มความมั่นใจได้อีก

4. อย่ าใส่ใจลู่วิ่งคนอื่น โฟกัสที่ลู่วิ่งเรา

หากทำงานไปนานๆ เราอาจเห็นเพื่อนของเราหลายคนเริ่มออกไปเรียนต่อ

สร้างครอบครัว หรือเปลี่ยนงานไปงาน ที่เงินเดือนสูง คนนั้นคนนี้ได้ดี

แล้วตัวเราล่ะทำอะไรอยู่? ควรจำไว้ว่า อย่ าเอาจังหวะชีวิตของเราไปเทียบกับใคร

โฟกัสที่ลู่วิ่งของเรา รู้ว่ากำลังจะทำอะไร รู้ว่าปลายทางเราต้องการอะไร

แอบมองลู่วิ่งคนอื่นบ้ า งเป็นบางครั้ง ให้มันเป็นแร งผลักดันตัวเอง

ให้พย าย ามมากๆ แต่อย่ าเอามาทำให้ตัวเองทุ กข์

5. โดนด่ าวันนี้ ดีกว่าโดนด่ าตอนอายุ 50

ความที่อายุเรายังน้อย นี่คือข้อได้เปรียบ เพราะอายุยังน้อย ความคาดหวัง

จากคนรอบข้างมันเลยน้อยไปด้วย ถึงแม้ว่าเราจะรู้สึก กดดันในการทำงาน

แต่เชื่อเถอะเราล้ มเหลววันนี้ มันดีกว่าเราไปล้มตอน 50

เพราะถึงวันนั้นจะไม่มีคนคุ้มกะล าหัวแล้วนะ

6. ต้องเป็น ลูกจ้างมืออาชีพ

อย ากประสบความสำเร็จในการเป็นมนุษย์เงินเดือนและมีความสุข

จงเป็นลูกจ้างมืออาชีพ ให้ได้ ลูกจ้างมืออาชีพ ก็คือคนที่ตระหนักได้ถึง

“ถูกจ้างมาด้วยค่าตอบ แทนจำนวนนึง” นั่นคือว่าบริษัท เขาต้องการอะไร

บางอย่างจากเรา เราต้องรู้ว่าบริษัทจ้างเรามาทำอะไรและทำมันให้ดีกว่า

ที่บริษัทคาดหวังให้มาก ถ้าต้องการความก้าวหน้าในงาน ถ้างานที่ทำอยู่

รู้สึกว่าไม่ตรงกับความสามารถหรือ passion ที่มีก็ไม่ควรทนทำ ควรจะหาอะไร

ที่เราทำแล้วเรามีความสุข เพื่อดึงศักยภาพของตัวเองออกมานอกจาก

จะทำให้เราเติบโตยังทำให้เราพัฒนาตัวเองอยู่ตลอด

Load More Related Articles
Load More By babyghost34
Load More In ข้อคิดเสริมกำลังใจ
Comments are closed.

Check Also

แบบนี้ไม่ได้เรียกว่าความรักหรอก..ถ้ามีรักแล้วไม่ใส่ใจ..อย่ าเสียเวลา

มีรักแล้วไม่ใส่ใจ มันไม่ได้เรียกว่าความรักหรอก รัก คือส … …